อู๊ยยย ฟังชื่อแล้วคือมาเป็นตาย่านแท้ ต้มงูสิง พะนะ! หนูข้าวเม่า บ่กล้าแม้แต่สิเอามาเล่าสู่ฟังเลย แต่กะเว้ามาป่านนี้แล้วกะลองเบิ่งดุ๊ว่า ต้มงูสิง อาหารพื้นบ้านของชาวอีสาน มันสิเป็นตาย่าน หรือสิแซบสมคำล่ำลือป่านได๋
งูสิง เป็นงูที่บ่มีพิษ บ่ดุร้าย บ่กัด แต่กะมีบางครั้งที่มันโมโหหรือตกใจ มันมักหากินอยู่ตามไร่ตามสวนใกล้เอือนคน นอนตามรูหรือโพลง บางทีกะขึ้นไปนอนบนต้นไม้ และบางครั้งกะมักเข้าเฮือนคน เพื่อจับหนูกินเป็นอาหาร งูสิงสามารถแยกย่อยเป็นหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ที่บ่มีพิษ
สำหรับวิธีการเฮ็ดกิน เริ่มจากเอางูสิงที่จับได้ เฮ็ดให้ตายก่อน เอามาเผาไฟ แล้วกะมาตัดหัวออก บางสูตรกะให้เอาเกล็ดออกลอกหนัง บางสูตรก็บ่ต้องลอกหนังออกแล้วแต่มัก สับเป็นต่อนๆ พอดีคำ จากนั้นกะค้างหม้อ ต้มน้ำให้เดือดใส่เครื่องต้มยํา ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หมากพริกสดตำละเอียด แล้วกะนําเนื้องูสิงที่สับไว้ใส่ลงในหม้อ ปรุงรสโดยใส่ผงชูรส นํ้าปลา ปลาแดก เกลือ ต้มให้เนื้องูสิงสุก สีเปื่อยๆ แล้วกะใส่ใบมะขามอ่อนประมาณ 1 กํามือ ผักแพรว ต้นหอม ผักชีลงไป ปิดฝาหม้อจั๊กหน่อย แล้วจะปลงหม้อ ตั้งพาข้าวกินโลด ถ้าได้กินคู่กับเหล้าขาว โอ๊ย ปานขึ้นสวรรค์ (เขาว่ามา หนูข้าวเม่ากะบ่เคยกิน) ชาวอีสานเชื่อว่าต้มงูสิง เป็นยาอายุวัฒนะ บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย โดยเฉพาะดีงู ถือว่าเป็นของดีเลยทีเดียวเด้อจ้าา หนูข้าวเม่าว่า พอเอามาทำเป็นอาหารแล้วมันกะเป็นตากินอยู่เด้ละเนาะ ฮ่าๆๆๆ สำหรับครั้งหน้า หนูข้าวเม่า สิมีอาหารพิสดารอีหยังมาฝากทุกคน ก็สามารถติดตามได้ที่ Zappnuar.com เด้อค่ะเด้ออ