หากพูดถึงเพศแม่อย่างผู้หญิงเราแล้ว ไหนจะต้องอุ้มท้อง ไหนจะต้องมีประจำเดือน และเป็นแม่บ้านให้คุณสามี และอีกสารพัดอย่าง ที่ผู้หญิงอย่างเราต้องเจอ วันนี้ได้นำ 9 สิ่งต้องห้ามของสาวๆ ที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งระหว่างมีประจำเดือน!! จะมีข้อห้ามอะไรบ้างมาดูกันเลย
1.ไม่กินของทอด
ผู้หญิงที่เป็นประจำเดือน จะมีการหลั่งไขมันของผิวหนังมากกว่าปกติ ผิวหนังจะรู้สึกมันและแพ้ง่าย จะมีสิวขึ้นหรอรอยคล้ำที่บริเวณขอบตา การเผาผลาญอาหารจะช้ากว่าปกติ ซึ่งถ้ากินของทอดเข้าไปอาจจจะส่งผลให้เกิดการสะสมไขมันในร่างกายจนทำให้อ้วนได้
2.ไม่กินผลไม้แช่เย็น และไม่ควรดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ
การทานอาหาร ผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่เย็นจัด จะทำให้การไหลเวียนของเลือดช้าลง และส่งผลให้มดลูกเกิดการหดตัวซึ่งจะทำให้เกิดการขับเลือดออกจากร่างกายมากกว่าปกติ จนส่งผลให้เราเกินอาหารปวดท้องประจำเดือน
3.ไม่สวมกางเกงที่รัดแน่นจนเกินไป
การสวมใส่กางเกงที่รัดแน่นเกินไป จะทำให้หลอดเลือดฝอยถูกกดทับอยู่ตลอดเวลา จะทำให้มีผลเสียต่อการไหลเวียนของเลือดจนทำให้อวัยวะเพศเกิดการบวมน้ำ
4.ไม่ดื่มชาและกาแฟ
การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆนั้น จะมีผลต่อการกระตุ้นเส้นประสาท หัวใจ และหลอดเลือด ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดประจำเดือนมากขึ้น
5.ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ในระหว่างที่มีประจำเดือน เอนไซม์ในร่างกายจะลดน้อยลง ถ้าหากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ในช่วงเวลานี้จะทำให้เกิดอาการเมาได้ง่ายขึ้น
6.ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์
ช่วงมีประจำเดือนปากมดลูกจะกำลังเปิดอยู่ ภูมิคุ้มกันของร่างกายก็จะลดลง ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ แบคทีเรียจะเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย และอาจทำให้ช่องคลอดปากมดลูกติดเชื้อได้
7.ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหนัก
ควรหลีเลี่ยงการกระโดดสูง กระโดดไกล การวิ่งหรือกีฬาอื่นๆที่จะต้องใช้ร่างกายหนักๆ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เลือดออกในช่องท้องมากเกินไป หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
8.ไม่ควรกินเค็มเกินไป
อาหารรสเค็มจะทำให้ร่างกายมีน้ำเกลือมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการปวดหัวและอารมณ์หงุดหงิดง่าย
9.ไม่ควรถอนฟัน
ในระหว่างที่มีประจำเดือน จำนวนของเกล็ดเลือดจะลดน้อยลง การทำงานและการแข็งตัวของเกล็ดเลือดจะต่ำกว่าปกติ ถ้าหากไปถอนฟันในช่วงนี้จะทำให้เลือดออกได้ง่ายและทำให้เกิดการติดเชื้อได้
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สาวๆทุกคนควรระมัดระวังและดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีในระหว่างที่มีประจำเดือน เพราะว่าในช่วนที่รอบเดือนมาในร่างกายของเราจะอ่อนแออย่างมาก เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ซึ่งจะทำให้เกินผลกระทบของร่างกาย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : www.liekr.com