Single Gateway คืออะไร มีผลดี ผลเสียอย่างไรบ้าง มาทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลย
https://www.youtube.com/watch?v=ShpInv6KQGo
Single Gateway คืออะไร ?
เริ่มจากคำว่าเกตเวย์ก่อน เกตเวย์ถ้าแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆก็คือประตูทางผ่าน ศัพท์ในวงการไอทีหมายถึงจุดที่เป็นเสมือนประตูเชื่อมระหว่างเครือข่ายหนึ่งไปยังอีกเครือข่ายหนึ่ง และเป็นตัวที่เชื่อมต่อโครงข่ายของแต่ละประเทศเข้าด้วยกัน
สมมุติว่าเราเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับเซิฟเวอร์ ปัจจุบันจะต้องผ่าน International internet gateway (IIG) ในประเทศเล็กๆ หรือประเทศที่ต้องการควบคุมผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตอย่างเช่น จีน ผู้ให้บริการ IIG จะมีเพียงเจ้าเดียวเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ไทยก็เคยใช้ระบบนี้ตอนที่อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายมากนัก คือเวลาต่ออินเตอร์เน็ต ทุกจุดเชื่อมต่อก็จะต้องมารวมที่ กสท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการ IIG แต่ในปัจจุบัน หลังวิกฤติปี 40 ไอเอ็มเอฟก็ได้สั่งให้เราเปิดเสรีโทรคมนาคม ทำให้เกตเวย์ในไทยเพิ่มมากขึ้นจนตอนนี้มีถึงสิบกว่าเกตเวย์แล้ว เพราะฉะนั้น Single Gateway เปรียบเสมือนการใช้ประตูเพียงบานเดียว เข้าออก ทำให้การใช้งานอินเตอร์เน็ตง่ายต่อการควบคุมโดยภาครัฐ
ทำไมรัฐจะกลับมาใช้ Single Gateway ?
อย่างที่กล่าวไปแล้ว Single Gateway คือประตูเพียงบานเดียว คือไม่ว่าอินเตอร์เน็ตภายในประเทศจะเชื่อมกันกี่หมื่นกี่พันเส้น แต่ทางออกเพื่อไปเชื่อมกับเครือข่ายในต่างประเทศนั้นจะเหลือแค่จุดเดียวเท่านั้น การดูแลการเข้าถึงอินเตอร์เน็ต การตรวจสอบข้อมูล การดักจับข้อมูล ฯลฯ จึงทำได้ง่ายกว่าเยอะ ในรัฐที่มีการปกครองแบบอำนาจนิยมเบ็ดเสร็จเช่นประเทศไทย จึงอาจเป็นเรื่องไม่น่าแปลกใจเท่าไร ที่รัฐบาลจะพยายามควบคุมการใช้งานและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากโลกภายนอก โดยอ้าง ‘ความมั่นคง’
ปัญหาและสิ่งที่จะตามมาของการใช้ Single Gateway ?
แน่นอนว่าการมีประตูทางออกเดียวจะทำให้อินเตอร์เน็ตช้าลงแน่นอน และอีกอย่างคือหากว่าเกตเวย์ล่มก็จะล่มกันหมดทั้งประเทศ เพราะจะไม่มีเกตเวย์ตัวอื่นรองรับเลย
แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือการที่ผู้ให้บริการ gateway (ซึ่งมีอยู่เจ้าเดียว) สามารถดักจับข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งานได้อย่างง่ายดาย รวมถึงปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลที่เราค้นหาได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพด้วย
ถ้าหากมีการใช้ Single Gateway จริง ก็จะยิ่งทำให้บริษัทต่างประเทศลังเลมากยิ่งขึ้นในการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และผู้ให้บริการที่มีพาร์ทเน่อร์กับบริษัทต่างประเทศก็อาจจะสูญเสียรายได้ เนื่องจากบริษัทข้ามชาติจะเกิดความไม่แน่ใจด้านความมั่นคงและปลอดภัยของการให้บริการอินเตอร์เน็ตในบ้านเรา หากล่มปุ๊ป แน่นอนว่าจบเห่แน่ทั้งประเทศ รวมถึงข้อมูลความลับทางการค้าก็อาจจะถูกล้วงได้โดยง่าย ในขณะเดียวกันผู้ใช้อินเตอร์เน็ตทั่วไปก็จะถูกจำกัดการเข้าใช้งานกับเครือข่ายต่างประเทศมากยิ่งขึ้น และยิ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษกับการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมโดยไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน
ถ้าตั้ง Single Gateway จริง ท่านจะพบเจอกับอะไร?
1.การถูกบล็อก แบน สแกน และตรวจสอบทุกการใช้งานในอินเตอร์เนตจากรัฐบาล
2.รัฐบาลสามารถป้องกันการเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ต้องการให้เข้าได้ เหมือนประเทศจีน ที่ไม่อนุญาตให้เข้า Facebook หรือสื่อ Social Network ที่รัฐไม่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึง
3.การติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เนตทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับระบบเดียว และถ้าระบบนั้น “ถูกโจมตีจนล้มเหลว” นั่นหมายถึงระบบอินเตอร์เนตที่ต้องพินาศทั้งประเทศ
4.ความเชื่อมั่นของต่างชาติเกี่ยวกับระบบความมั่นคงและปลอดภัยของการให้บริการอินเตอร์เนตต่ำถึงขีดสุด เพราะหน่วยงานเอกชนสามารถถูกล้วงลูกโดยรัฐบาลได้ตลอดเวลา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.change.org
และนอกจากนี้ยังมีบทความจาก www.suponchai.com ในเชิงล้อเลียน และแอบประชดนิดนึงเกี่ยวกับผลดีของ Single Gateway ด้วย มาดูพร้อมๆกันเลยจ๊ะ
ขอขอบคุณภาพที่เข้าใจง่ายๆที่ผมแคปมาจาก Thai PBS ครับผม
“ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอ ขนาดเหรียญยังมีสองด้านเลย…แล้วประสาอะไรกับเรื่องราวรอบตัวเราที่ย่อมมีหลายหลากมุมมองให้ได้ศึกษา ผมเลยลองวิเคราะห์แล้วรวมมาให้ดูกันว่า หากระบบ internet ของประเทศไทยเปลี่ยนกลับไปใช้ Single Gateway จะมีผลดีอย่างไรบ้าง…มาดูกันครับ”
1.ครอบครัวอบอุ่นยิ่งขึ้น
เพราะอินเทอร์เนตช้าลงแถมมีโอกาสล่มง่ายขึ้นมากจากการที่มีประตูเดียว ถ้า Single Gateway พัง…เนตก็เน่าโดยไม่ต้องสงสัย ลูกจะเล่น Dota พ่อจะเล่น Line ก็ไม่ได้ ทำให้สมาชิกในครอบครัวมีเวลาหันหน้าเข้าหากันมากขึ้น ออกไปทำกิจกรรมด้วยกันมากขึ้น แทนที่จะเอาแต่มองหน้าจอไม่สนใจกัน
2.ชะลอการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทยได้ระดับหนึ่ง
เพราะพอเล่นเนตแล้วช้าจนหงุดหงิดหรือเล่นไม่ได้ ก็มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้น น่าจะมีโอกาสให้คู่แต่งงานได้ทำกิจกรรมน่ารักๆแทนการมองจอกันมากขึ้น น่าจะทำให้อัตราการเกิดของเด็กทารกเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ
3.สามารถตามจับกุมอาชญกรรมทางอิเลกทรอนิกส์ได้ง่ายขึ้น
เพราะทุกอย่างจะต้องผ่านประตู ถ้าคนเฝ้าประตูตรวจสอบก็จะพบความไม่ชอบมาพากลได้อย่างง่าย ตำรวจหรือทหารที่ดูเวลางานด้านนี้ก็ไม่ต้องปวดหัวทำหนังสือขอผู้ให้บริการอินเทอร์เนตหลายๆเจ้าเพื่อวิ่งรอกดูข้อมูล ตรวจสอบได้จากที่เดียวคือที่ Gateway ที่มีอันเดียวนั่นเลย ซึ่งยังไงภาครัฐคงไม่ปล่อยให้หน้าที่ดูแล Single Gateway เป็นของเอกชนรายใดรายหนึ่ง คงเป็นรัฐวิสาหกิจอย่าง CAT TOT ไม่ก็ตำรวจทหารทำเองซะเลย เพราะฉะนั้นถ้าอยากเจาะดูข้อมูลของใครหรือแม้แต่คู่แข่ง ขอแค่เส้นสายภาครัฐก็ง่ายเมื่อปอกล้วยเข้าปาก ส่วนประชาชนทั่วไปเวลาโดน scam ก็ไปลุ้นเอาแล้วกันนะครับว่าเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ดูแล Single Gateway จะตามให้ไหม…ว่าไปตามดวง
4.ธุรกิจขาย hardward computer จะกลับมารุ่งเรือง
เพราะโครงการ Single Gateway จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการจัดทำโครงการจำนวนมหาศาล จึงมีงบประมาณรวมเป็นหมื่นๆล้านรอให้คุณได้สวาปามอยู่ แค่มีเส้นสายภาครัฐคุณก็จะรวยจากการขาย hardware ราคาเรือนล้านไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว
5.ส่งเสริมการเจริญเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เนตไทย
ที่ไม่คิดหรือไม่มีความสามารถจะแข่งขันกับผู้เล่นระดับภูมิภาคหรือระดับโลกได้ เพราะเมื่อระบบอินเทอร์เนตของเรามีโครงสร้างคล้าย จีน เกาหลีเหนือ หรือแม้แต่สปป.ลาว จะส่งผลให้เจ้าของธุรกิจอินเทอร์เนตจากต่างชาติที่มาลงทุนในประเทศไทยอย่าง Facebook Google ต้องคิดอีกรอบเพราะถ้าไม่เข้ามาตั้ง server ในไทย เวบเขาก็จะช้า สู้เวบไทยไม่ได้ แต่ถ้ามาตั้งในไทยก็ไม่รู้ว่าจะโดนตรวจสอบหรือโดนยึดวันไหน ยิ่งเวบไหนใช้ระบบ visual server อยู่ยิ่งจัดการยาก อาจจะต้องลดหรือถอนการลงทุนออกจากประเทศไทย นั่นเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยเข้ามาเสียบได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องทำเวบให้ดี เพราะไม่มีเวบต่างชาติที่พัฒนา function มาแล้วอย่างล้ำมาแข่งขันให้กวนใจ คนไทยก็ใช้ของไทยที่ทำกันตามมีตามเกิดกันไป ไม่ต้องลงทุน R&D ให้เมื่อย อีกหน่อยเราจะได้มี Google+Facebook เวอร์ชั่นไทยแบบที่จีนมี Baidu+Weibo ส่งเสริมเงินไทยไม่ให้รั่วไหลออกนอกประเทศอีกต่างหาก
6.เพิ่มระดับความสัมพันธ์ทางการทูตกับอนาคตมหาอำนาจของโลก
อย่างประเทศจีนที่ก็ใช้ Single Gateway เหมือนกัน นี่ยังไม่รวมเกาหลีเหนือ สปป.ลาว และหลายๆประเทศอาหรับที่มีลักษณะการควบคุมข้อมูลข่าวสารคล้ายคลึงกัน คนเราพอมีอะไรเหมือนกันมันก็คุยกันง่าย ยิ่งหากรัฐบาลกล่าวยกย่องให้จีนเป็นพี่ใหญ่ผู้เป็นต้นแบบด้าน Single Gateway อย่างเปิดเผยในเวทีโลก ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนก็จะแน่นแฟ้นขึ้นอย่างหาที่สุดไม่ได้
7.รัฐประหารง่ายขึ้นเยอะ
การรัฐประหารรอบปีพ.ศ. 2557 ที่ผ่านมา คสช.คงยังค้างใจว่าควบคุมสื่อได้อยู่หมัดทุกสื่อยกเว้นอินเทอร์เนต ที่คนยังส่งข่าวกันว่อนในขณะที่ทีวีขึ้นจอดำ ต่างชาติมาตามหาเรื่องจริงที่ประชาชนทั่วไปแชร์ขึ้นเนตได้อย่างง่าย ควบคุมการไหลของข้อมูลข่าวสารอย่างเบ็ดเสร็จไม่ได้ จึงไม่อยากจะพลาดรอบหน้าอีก ถ้า Single Gateway เสร็จเรียบร้อย รอบหน้าจะรัฐประหารเมื่อไหร่ก็สั่งปิด Single Gateway ทีเดียว…อยู่!! ง่ายจะตาย แล้วทุกคนก็ต้องฟังแต่สิ่งที่คณะรัฐประหารพูด ไม่ว่าจะจริงหรือมั่วก็ไม่มีทางเลือกอื่น ทหารชีวิตง่ายขึ้นเยอะ
เห็นไหมครับว่าทุกอย่างไม่ได้มีแต่ข้อเสียหรือด้านเดียวเสมอไป อยู่ที่เราจะเลือกใช้เวลามองอีกด้านของเรื่องราวหรือไม่ และข้อดีเหล่านั้น…เป็นข้อดีที่เอื้อประโยชน์สำหรับใครก็เท่านั้นเองครับ
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก suponchai.com