พุงถามหาแน่ ถ้ายังดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เป็นประจำ มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย…
1.น้ำส้ม 8 ออนซ์ = 110 แคลอรี่ / น้ำส้ม 1 ขวดใหญ่ = 250-500 แคลอรี่ เครื่องดื่มนางเอกที่สาวๆหลายคนชอบดื่ม รู้หรื่อไม่ว่า ดื่มมากๆ มันก็เป็นตัวการทำให้คุณอ้วน-ลงพุงได้เหมือนกัน ลองคิดดูสิ ถ้าในทุกมื้ออาหาร หรือในหนึ่งมื้ออาหารต่อวัน คุณดื่มน้ำส้มที่ให้ความสดชื่นมากกว่าแทนน้ำเปล่า ซึ่งในน้ำส้มคั้นหนึ่งขวด มันก็มาจากส้มหลายสิบลูกแล้ว (กว่าจะได้น้ำส้มเต็มขวด) และยังมีน้ำเชื่อม เกลือ น้ำตาล ที่บางร้านแอบใส่ลงไปอีก แบบนี้แคลอรี่ที่ได้จะสะสมเพิ่มขึ้นอยู่มากขนาดไหน
และขอเตือน…อย่าคิดว่าการดื่มน้ำผลไม้จะช่วยรักษาหุ่นได้ หากคุณอยากคุมน้ำหนักจริงๆ เราแนะนำให้คุณทานผลไม้สดจะดีกว่าการคั้น ซึ่งส้ม 1 ผล จะให้พลังงานแค่ 50-62 แคลอรี่เท่านั้น อีกทั้งไฟเบอร์ในผลส้มยังทำให้คุณรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น แถมกากใยยังช่วยทำความสะอาดลำไส้ให้สามารถดูดซึมสารอาหารได้ดี เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเต็มที่ด้วยนะจ๊ะ
2.น้ำอัดลม 20 ออนซ์ = 240 แคลอรี่ / ขนาดกระป๋องขนาดปกติ = 280 แคลอรี่ เครื่องดื่มพลังงานสูง แต่ไร้ประโยชน์ ที่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วมันทำมาจากน้ำตาลข้าวโพด แค่ที่มาก็บอกอยู่แล้วว่ามันจะเพิ่มความอ้วนขนาดไหน ยิ่งนำมาอัดกระป๋องแล้วก็ยิ่งดื่มง่าย บวกกับความซ่าที่ให้ความสดชื่น หลายคนเลยนิยมซื้อมาดื่มกันเวลากระหาย เพราะน้ำตาลช่วยทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นได้ โดยไม่รู้เลยว่าร่างกายพร้อมที่จะเปลี่ยนน้ำตาลส่วนเกินนั้น ‘สะสมเป็นไขมัน’ อยู่ตามร่างกายเมื่อเบิร์นมาใช้ไม่หมด โดยเฉพาะตรงบริเวณรอบเอวที่ตอนนี้หลายคนกำลังกังวลหนักหนา
เพราะฉะนั้น ก็เปลี่ยนนิสัยการดื่มซะใหม่ ตัดน้ำอัดลมออกจากเมนูประจำวันได้เป็นดีที่สุด แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่าแทน จะดีต่อสุขภาพ และหุ่นสวยๆ ของเพื่อนๆแน่นอน อย่างน้อยๆ ก็ช่วยคุมน้ำหนัก-ลดพุง ลดหน้าท้องให้แบนราบได้
3.กาแฟ 20 ออนซ์ = 330 แคลอรี่ / กาแฟขนาดกลาง = 400 แคลอรี่ เครื่องดื่มอันตรายที่คนทำงานควรฟังให้ดี เพราะมันมีแต่จะทำให้เสียสุขภาพ และทำให้หุ่นสวยๆ ของคุณต้องพังลง ไม่ว่าจะเป็นครีม นมสด นมข้นหวาน ไหนจะน้ำตาล และผงโรยหน้าทั้งหลายที่เติมความอร่อย ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดพุง และสร้างห่วงยางรอบเอวทั้งสิ้น จริงอยู่ที่ตัวกาแฟนั้นมีแคลอรี่น้อยมาก (ประมาณ 5 แคลอรี่/8 ออนซ์) แต่ด้วยการปรุงแต่งรสหลายๆ อย่าง เลยทำให้ปริมาณแคลอรี่ต่อแก้วมีเพิ่มขึ้น อย่างกาแฟขนาด 10 ออนซ์ (ใส่ครีมและน้ำตาล) ก็มีแคลอรี่มากถึง 120 แคลอรี่ คิดดูสิว่า คุณดื่มไปทั้งหมดกี่แก้ว กี่แคลอรี่ ถึงแม้จะวันละแก้ว แต่ในหนึ่งสัปดาห์ คุณก็จะได้ไปทั้งหมดประมาณ 840-1,610 แคลอรี่ เลยนะ น้อยที่ไหนละ
ทางที่ดี ถ้าคุณอยากดื่มกาแฟระหว่างพักเบรก หรือแก้ง่วงตอนบ่ายๆ ลองหันไปลองกาแฟดำดูก็ไม่เลวนะ หากคุณไม่สามารถทนกับรสขมของมันได้ ก็ให้ใส่ ‘หญ้าหวาน’ ลงไปช่วยก่อนก็ได้ แต่กาแฟเหล่านี้ไม่ควรให้หวาน หรือมันมากเกินไป หรือทานรสชาติหวานมันเข้มข้นในคราวเดียว เพราะจะทำให้ร่างกายปรับตัวตามระดับน้ำตาล และคาเฟอีนไม่ทัน ทำให้ไม่สามารถควบคุมปริมาณไขมัน และน้ำตาลที่ได้รับได้
4.เครื่องดื่มชูกำลัง 1 กระป๋อง = 110-300 แคลอรี่ เครื่องดื่มเฉพาะกลุ่ม ที่อัดแน่นไปด้วยคาเฟอีน และน้ำตาลมากถึง 27-55 กรัม (6-13 ช้อนชา) ซึ่งหากใครที่ดื่มเป็นประจำคงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พุงส่วนเกินนั้นมาจากไหน ถึงคุณจะลด และควบคุมอาหารยังไง ก็ได้รับน้ำตาลที่มีอยู่มากในเครื่องดื่มอยู่ดี และนั่นแทบจะไม่มีผลอะไรเลยกับการควบคุมอาหารของคุณ (อาจเทียบเท่ากับอาหารส่วนที่คุณควบคุมไปด้วยซ้ำ) ฉะนั้นถ้าคุณยังขืนดื่มมันบ่อยๆ ความอ้วนจะถามหาคุณในไม่ช้าแน่นอน ที่สำคัญไม่เพียงระดับน้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้น แต่มันจะสะสมไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุด
5.เครื่องดื่มสีเหลืองอำพัน 1 แก้ว (แอลกอฮอลล์)= 150 แคลอรี่ ต่อให้คุณจะลดน้ำหนัก ทานน้อยสักแค่ไหน แต่หากคุณยังดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ อยู่เป็นประจำ ก็ไม่ช่วยทำให้พุงน้อยๆ ของคุณยุบลงได้หรอกนะ ตรงกันข้ามแคลอรี่ที่สะสมเรื่อยๆ กับพฤติกรรมที่คุณไม่เคยออกกำลังกาย จะทำให้พุงของคุณเห็นชัดมากขึ้น หลายคนดื่มมากเกินไป ถึงขนาดดื่มแทนน้ำเปล่าได้เลย มันเลยมีคำภาษาอังกฤษเรียกพุงย้อยๆ ว่า ‘Beer Belly’ ซึ่งนอกจากจะมีโอกาสเพิ่มพุงสูงมากขึ้นแล้ว การดื่มแทนน้ำยังทำให้คุณอยากขับปัสสาวะบ่อยขึ้น (คายน้ำออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว) ตลอดจนเกิดอาการเหนื่อยง่าย และรู้สึกง่วงนอนด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก www.thairath.co.th