สาวๆหลายคนมักจะมีอาการปวดท้องเวลามีประจำเดือน อย่าชะล่าใจไปนะคะ อย่าคิดว่าแค่ปวดท้องเฉยๆ เพราะอาการปวดท้องประจำเดือนนั้นอาจเป็นอาการเตือนของโรคร้ายแรงก็เป็นได้ ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับประจำเดือนกันก่อนนะคะ ประจำเดือน หรือ รอบเดือน (Menstruation) คือ เลือดและเนื้อเยื่อต่างๆ ที่หลุดลอกออกจากเยื่อบุโพรงมดลูกหรือเยื่อบุมดลูก เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง ในรอบเดือนที่ไม่มีการปฏิสนธิ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจากรังไข่จะลดระดับลงส่งผลให้มีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูก โดยสัมพันธ์กับการตกไข่ ซึ่งการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกจะเกิดเดือนละครั้ง (ประมาณวันที่ 28 ของรอบเดือน) จึงถูกเรียกว่า ประจำเดือน
ลักษณะอาการก่อนมีประจำเดือน ได้แก่ อาการคัดตึงเต้านมทั้งสองข้าง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดหน่วงท้องน้อย ปวดหลัง ปวดเอว รับประทานอาหารมากขึ้น ท้องอืด ถ่ายเหลว น้ำหนัก ขึ้น บวมตัว หน้า มือ เท้า แขน ขา
อาการประจำเดือนมาผิดปกติพบได้ประมาณในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ มีหลายรูปแบบ เช่น
1.ประจำเดือนมามาก และ มีลิ่มเลือด
2.ประจำเดือนมามาก มานานกว่า 7 วัน หรือระยะห่างของรอบเดือนน้อยกว่า 21 วัน
3.ประจำเดือนมาน้อยกว่าปกติ
4.ระยะห่างของรอบประจำเดือนนานมากกว่า 35 วัน
5.ประจำเดือนมามาก มานานกว่า 7 วัน ระยะห่างของรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ
6.ประจำเดือนมาปริมาณปกติ แต่ระยะเวลาอาจมากกว่า 7 วัน และระยะห่างของรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ
7.ประจำเดือนหายไปมากกว่า 3-6 รอบเดือน
8.เลือดออกจากช่องคลอดหลังวัยหมดประจำเดือน
สาเหตุของความผิดปกติเหล่านี้มีมากมาย เช่น ความเครียด ความวิตกกังวล การอดอาหาร น้ำหนักที่เพิ่มหรือลดเร็วผิดปกติ การใช้ยาคุมกำเนิด ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาฉีดคุมกำเนิด ยาฝังคุมกำเนิด มีผลทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติทั้งสิ้น
การดูแลตัวเองในช่วงเป็นประจำเดือน
1.เมื่อมีอาการปวดมากๆให้ใช้ถุงน้ำร้อนประคบบริเวณท้องน้อย
2.ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
3.ในปัจจุบันมีผ้าอนามัยให้เลือกทั้งชนิดแผ่น และชนิดสอด มีทั้งแบบแผ่นบาง แผ่นหนา มีขนาดมาตรฐานและยาวพิเศษ โดยสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการ ขนาดรูปร่าง ปริมาณประจำเดือน ความสบาย ไม่ระคายเคือง ควรพยายามหลีกเลี่ยงผ้าอนามัยชนิดมีน้ำหอม เพือลดอาการระคายเคืองต่อ อวัยวะเพศ ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยอย่างน้อยทุก 4-6 ชั่วโมง หรือเมื่อประจำเดือนชุ่มแผ่น เพื่อลดการระคายเคือง และกลิ่นอันไม่พึงประสงค์
4.ช่วงที่มีประจำเดือนควรรับประทานอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ โดยควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง หลีกเลี่ยง กาแฟ บุหรี่ สุรา เพื่อลดอาการก่อนมีประจำเดือน
5.ควรออกกำลังกายที่เหมาะสม ไม่หักโหม เนื่องจากช่วงมีประจำเดือนมีการเสียเลือดและเกลือแร่บางชนิดออกจากร่างกาย อาจทำให้ร่างกายรู้สึกอ่อนเพลีย และรู้สึกล้ามากกว่าปกติ
6.ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
7.ช่วงมีประจำเดือนไม่เป็นข้อห้ามของการออกกำลังกาย เนื่องจากระหว่างออกกำลังกาย ร่างกายจะมีการหลั่งสารแห่งความสุข (เอนดอร์ฟิน/ Endorphin) ช่วยผ่อนคลายความเครียด และบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้
8.การว่ายน้ำในช่วงมีประจำเดือนสามารถทำได้ โดยอาจเลือกใช้ผ้า อนามัยแบบสอด เพื่อลดการเปรอะเปื้อน โดยต้องเลือกสระว่ายน้ำที่สะอาด มีมาตรฐาน เพื่อลดการติดเชื้อ
9.ช่วงมีประจำเดือนสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ ไม่เป็นข้อห้ามแต่อย่างใด แต่ควรระมัดระวังเรื่องของความสะอาด เนื่องจากเป็นช่วงที่ปากมดลูกเปิด และเลือดประจำเดือนเป็นอาหาร
ที่ดีของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ติดตามสาระดีๆจาก Zappnuar Healthy ได้ที่ Zappnuar.com ได้ในครั้งหน้า สวัสดีค่ะ