ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนประเทศไทยของเราอยู่ในช่วงฤดูฝน หลายคนอาจไม่ชอบหน้าฝนเอาซะเลย เพราะนอกจากจะซักผ้าแห้งช้าแล้วเสื้อผ้ายังเหม็นอับ ไหนจะการเดินทางที่สุดแสนจะลำบากอีก แต่รู้หรือไม่ว่าฤดูฝนเนี้ยแหละเป็นช่วงที่ภูเขาและป่าไม้ มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามที่สุดของปี ทำให้บรรดาเหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลาย นิยมแบกเป้ชมธรรมชาติในช่วงฤดูฝนกันมากมาย วันนี้ Zappnuar Story จึงมีวิธีเตรียมตัวสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูฝนให้ปลอยภัยมาฝากกันค่ะ
1. ศึกษาและทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่จะเดินทางไป ก่อนอื่นเราจะต้องค้นหาแหล่งท่องเที่ยวและข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสถานที่นั้นๆ ว่าตั้งอยู่ไหนเดินทางไปอย่างไรถึงจะสะดวก รวมถึง สภาพแวดล้อม ต้องท่องจำข้อมูลให้ขึ้นใจด้วยเพราะเมื่อเราเดินทางไปถึงที่หมายแล้ว หากแต่มัวหยิบแผนที่ หรือ หยิบข้อมูลขึ้นมาดู สิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นอุปสรรค และอาจจะเปียกน้ำฝนได้
2. ตรวจสอบสภาพอากาศ และพยายามหาข้อมูลในวันต่อไปล่วงหน้าไว้ด้วย เช่น ตรวจสอบสภาพดินฟ้าอากาศจากภาพถ่ายดาวเทียม โดยสามารถเข้าไปเช็คกันได้ตามเว็บไซต์ที่แสดงภาพถ่ายดาวเทียมทั่วไป ซึ่งจะพอทำให้สามารถประเมินกันได้ว่าตรงจุดไหนของประเทศไทยที่มีกลุ่มเมฆและกลุ่มพายุปกคลุมอยู่ ในปริมาณมากน้อยเพียงใด สามารถเดินทางไปเที่ยวได้หรือไม่ซึ่งเราต้องเช็คทุกครั้งที่จะเดินทางไปเที่ยวไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม
3. ตรวจเช็คสภาพอากาศ ก่อนออกเดินทางอีกครั้ง โดยอาจจะต้องโทรศัพท์ไปสอบถามสภาพอากาศยังหน่วยงานท้องถิ่นในแหล่งท่องเที่ยวที่เราจะไปด้วย เช่น ที่ทำการอุทยานฯ หน่วยงานบริหารส่วนตำบล ส่วนจังหวัดหรือสำนักงานการท่องเที่ยวประจำแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ
4. เตรียมสัมภาระในการเที่ยวป่าไปให้พอเหมาะ ไม่ควรนำไปมากเกินความจำเป็นเพราะการท่องเที่ยวป่าเขาลำไพร เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า จะต้องมีการเดินเท้าเข้าป่าไปในระยะทางที่ยาวนานพอสมควร หากนำไปโดยไม่มีความจำเป็น อาจจะกลายเป็นภาระอันหนักอึ้งได้โดยเฉพาะสำภาระที่ไม่ทนต่อความชื้น ก็ไม่ควรจะนำไปเยอะ ถ้านำไปควรมีถุงกันน้ำไปด้วย
5. การแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับการเที่ยวป่าในหน้าฝน ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่บางเบา แห้งง่ายทะมัดทะแมงต่อการเคลื่อนไหวร่างกาย รองเท้ารัดส้นที่กระชับ เบาสบาย ไม่ลื่น ซึ่งอาจจะเตรียมเสื้อกันฝนสำหรับการรับมือกับฝนที่ตกหนัก หรือ เตรียมเสื้อผ้าร่มไว้สักตัวเพื่อช่วยเพิ่มไออุ่นให้ร่างกายและกันฝนที่ตกไม่แรงมากได้ เพื่อนๆ ควรแยกชุดสำหรับใส่เดินป่าไว้ 1 ชุด และติดชุดสำหรับใส่นอนในป่าอีกไปด้วย แค่ 1 ชุด ก็เพียงพอแล้วส่วนชุดที่จะใส่กลับบ้านนั้นแยกฝากไว้ที่อุทยานหรือเก็บไว้ในรถก่อน และที่สำคัญไม่ควรสวมใส่เครื่องประดับไปเด็ดขาด เพื่อความสะดวกสบาย และปลอดภัยในการเดินป่า
6. พยายามสังเกต และ ฟังเสียงที่ดังผิดปกติของธรรมชาติ เพราะถ้าหากเกิดฝนตกหนักมากๆ อาจจะเกิดน้ำป่าไหลหลากได้ ซึ่งจะเป็นกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวลงมาจากเขา มีเสียงที่ดังมากกว่าการไหลของสายน้ำที่เป็นปกติ สีของน้ำจะมีสีแดงข้น และเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้น ให้เพื่อนๆ รีบหาที่หลบภัยให้เร็วที่สุด
7. การตั้งแค้มป์ในป่า ไม่ควรอยู่ใกล้แหล่งน้ำมากเกินไป หรือ อยู่ในบริเวณหุบเขาที่เคยเป็นช่องทางน้ำไหลเพราะขณะที่พักผ่อนหลับนอนอยู่ในเวลากลางคืน อาจจะมีน้ำป่าไหลหลากลงมาได้ อีกทั้งสัตว์ป่า
โดยเฉพาะสัตว์ล่าเหยื่อจะชอบมากินน้ำยามค่ำคืน แต่ทางที่ดีหากเข้าไปในป่าดิบอยากให้นอนเปลและกางผ้ากันฝน มากกว่านอนเต้นท์
8. การลงเล่นน้ำตก ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่นั้นๆ อย่างเคร่งครัด เช่น ไม่ลงเล่นน้ำในบริเวณที่ห้ามไว้ หรือปีนป่ายในบริเวณที่เป็นพื้นที่อันตรายเพราะอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บ และเสียชีวิตได้
9. หากอยู่ท่ามกลางฝนฟ้าคะนอง ควรปิดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือ วิทยุเคลื่อนที่ เพื่อป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่า และไม่ควรอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และสูงเด่น เนื่องจากต้นไม้เหล่านี้เปรียบเสมือนเสาล่อฟ้าดีๆนี่เอง ควรหาต้นไม้ที่ระดับต่ำลงมา และแข็งแรง กิ่งไม่หักง่าย
10. ยารักษาโรคและอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับการเที่ยวป่าหน้าฝนเพราะอยู่ในบรรยากาศที่มีความชื้นนานๆ อาจจะเป็นไข้หวัดได้ อีกทั้งในระหว่างการเดินป่าอาจจะมีอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นระหว่างทาง เช่น ลื่นล้ม โดนกิ่งไม้เกี่ยว เป็นต้น นอกจากนี้เพื่อนๆก็อย่าลืมฟิตสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงพร้อมสำหรับการเดินทาง
เพียงเท่านี้เราก็สามารถเที่ยวป่าในฤดูฝนได้อย่างปลอดภัยหายห่วงแล้วละค่ะ ติดตามพวกเราได้ที่ Zappnuar.com นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก khaoyaizone.com